วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ชีวประวัติ ท่านนบีมูฮัมหมัด

ชีวประวัติ ท่านนบีมูฮัมหมัด
             
              มูฮัมหมัด อิบนิอับดุลเลาะห์ อิบนิ อับดุลมุฏฏอลิบ อิบนิฮาชิม อิบนิ อับดิมานาฟ เชื้อสายของท่านนบีมูฮัมหมัดสืบไปถึงนบีอิสมาอีล อิบนิอิบรอฮีม
          
อัลดุลมุฏฏอลิบและการขุดบ่อน้ำ

             อับดุลมุฏฏอลิบ ปู่ของท่านรอซูล  เป็นผู้ให้น้ำแก่ผู้ที่ทำฮัจญ์ที่มาทำการฏอวาฟรอบกะอฺบะห์ และผู้คนทั้งหลายก็รักท่าน และมีอยู่วันหนึ่งท่านอับดุลมุฏฏอลิบ คิดที่จะขุดบ่อน้ำซัมซัม เพื่อให้ง่ายแก่ท่านในการให้น้ำแก่บรรดาผู้ที่ทำฮัจญ์ แต่ว่าท่านไม่รู้ที่ของมัน ท่านก็ได้เห็นที่ของบ่อน้ำซัมซัมในความฝันของท่าน ดังนั้นท่านจึงได้ไปหาลูกชายของเขาที่ชื่อ ฮาริษ เพื่อขุดบ่อน้ำ และน้ำก็ได้พุ่งออกมาอย่างมากมาย ผู้คนทั้งหลายก็หันไปมองรอบๆบ่อน้ำ และพวกเขาก็พูดกับอับดุลมุฏฏอลิบว่า พวกเราจะทำหน้าที่แบ่งบ่อน้ำระหว่างพวกเราและพวกท่าน ท่านอับดุลมุฏฏอลิบก็ไม่ได้ทำสิ่งใดนอกจากของดุอาอฺต่ออัลเลาะห์ ที่จะขอริสกีต่อพระองค์ด้วยลูกชายสิบคน และฆ่าคนหนึ่งจากพวกเขาเพื่อเป็นการใกล้ชิดต่ออัลเลาะห์

การรอดพ้นของอัลดุลเลาะห์
            อัลเลาะห์ได้ให้ริสกีแก่อับดุลมุฏฏอลิบลูกชายสิบคน ดังนั้น เขาจึงได้คิดในเรื่องบนบาน ท่านอัลดุลมุฏฏอลิบได้ทำการเสี่ยงทายระหว่างลูกๆของเขา และผลของการเสี่ยงทายก็ตกไปอยู่ที่อับดุลเลาะห์พ่อของท่านรอซูล
           อับดุลมุฏฏอลิบได้นำตัวลูกชายของเขาไปที่กะอฺบะห์เพื่อที่จะเชือดเขา ผู้คนที่อยู่ที่นั่นก็ได้พบเห็นเขา และพวกเขาก็พูดกับอับดุลมุฏฏอลิบว่า เกิดอะไรขึ้นกับสติปัญญาของท่านที่จะเชือดลูกชายของท่าน? จงไปหาโหรทำนายและปรึกษานางในเรื่องของท่าน
และอับดุลมุฏฏอลิบ ก็ได้ไปหาโหรทำนาย และนางก็กล่าวว่า จงให้การเสี่ยงทายเกิดขึ้นระหว่างอับดุลเลาะห์และอูฐ 100 ตัว และหากว่าการเสี่ยงทายได้ตกไปอยู่ที่อูฐ ท่านจะได้ไม่ต้องฆ่าลูกชายของท่าน และหลังจากการเสี่ยงทาย อับดุลเลาะห์ก็ได้รอดพ้น และอับดุลมุฏฏอลิบ ก็ได้เชือดอูฐ 100 ตัว เพื่อเป็นการรักษาสัญญาการบนบานของเขาที่ได้ทำเพื่ออัลเลาะห์

การแต่งงานของอัลดุลเลาะห์กับอามีนะห์          
            อับดุลมุฏฏอลิบต้องการให้ลูกของเขา อับดุลเลาะห์แต่งาน ดังนั้นเขาจึงเลือกให้กับลูกของเขา คือเด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ อามีนะห์ บินติ วะฮฺ บิน และหลังจากแต่งงาน ท่านอับดุลเลาะห์ก็ได้ออกไปกับกองคาราวาน ไปยังประเทศชาม และเขาก็ทิ้งภรรยาของเขาที่ตั้งครรภ์นบีมูฮัมหมัด แต่ว่าท่านอับดุลเลาะห์ได้ตายในระหว่างเดินทางก่อนที่เขาจะเห็นลูกชายของเขา

วันเกิดของท่านนบีมูฮัมหมัด
            ท่านรอซูลเกิดปีช้างในวันจันทร์ และท่านหญิงอามีนะห์ บินติวะฮฺบิน ได้คลอดเด็กออกมา และคนใช้ผู้หญิง ก็ได้ออกไปด้วยความเร็ว เพื่อบอกความดีกับอะบาละฮับว่า แท้จริง อามีนะห์ได้คลอดเด็กออกมา และอะบาละฮับดีใจ และเขาก็ปล่อยคนใช้คนนั้นให้เป็นไท
            อับดุลมุฏฏอลิบออกไปบ้านของลูกชายของเขาด้วยความเร็ว เพื่อที่จะดูเด็กที่เกิดมาใหม่ และเขาอุ้มเด็กคนนั้น และพาเด็กคนนั้นไปที่กะอฺบะห์ และขอบคุณอัลเลาะห์ และตั้งชื่อเขาว่า “มูฮัมหมัด”

ปีช้าง
            ปีที่ท่านนบีเกิด เป็นปีที่ถูกเรียกว่า ปีช้าง เพราะว่าอับรอหะฮ์ ทหารของประเทศเอธิโอเปีย ได้ยกกองทัพทหารที่มากมายเพื่อทำลายกะอฺบะห์ เพราะว่าผู้คนไม่ประกอบพิธีฮัจญ์ยังบ้านที่เขาได้สร้างไว้ในประเทศเยเมน ด้วยเงินและทอง และผู้คนก็ไปที่กะอฺบะห์ และพร้อมกับเขาที่มีกองทัพที่ใหญ่โต
และในขณะที่เขาได้เข้าใกล้อัลกะอฺบะห์ อัลเลาะห์ได้ส่งนกที่เท้าของมันมีหินก้อนเล็กๆเพื่อที่จะมาขว้างกองทัพช้าง เมื่อก้อนตกไปที่ชายคนหนึ่งจากพวกเขา และหลังจากนั้น ชายคนนั้นก็ตาย

แม่นมของท่านรอซูล
             จากประเพณีของชาวอาหรับที่พวกเขาจะให้ลูกของพวกเขามีแม่นมให้แก่พวกเขา และแม่นมก็จะมาเพื่อที่จะเลือกเด็กคนหนึ่งจากพวกเขา เพื่อที่จะให้นม และทุกๆแม่นมก็รู้ว่าท่านรอซูล เป็นเด็กกำพร้า และก็จะออกห่างจากท่านนบี เพราะว่าพวกแม่นมต้องการเด็กที่มีฐานะร่ำรวย เพื่อที่พวกเขาจะให้เงินแก่นางอย่างมากมาย ค่าใช้จ่ายของเด็กต่อตัวนางและลูกๆของนาง และฮาลีมะห์ ซะอฺดียะห์ ไม่พบผู้ให้นมแก่นบีมูฮัมมัด และนางจึงได้รับท่านมาเพื่อที่จะให้นมแก่ท่าน และด้วยกับความจำเริญของท่านนบีมูฮัมหมัด อัลเลาะห์ได้ทรงปรับปรุงทุกๆสภาพของฮาลีมะห์ และอัลเลาะห์ก็ได้ให้ความจำเริญแก่นางในการใช้ชีวิตของนาง
การผ่าหัวใจของท่านรอซูล
             ระหว่างที่ท่านรอซูลอยู่กับนางฮาลีมะห์ ซะอฺดียะห์ ท่านนบีได้เล่นอยู่กับพี่น้องจากแม่นมเดียวกัน ได้มีมลาอีกะห์สองท่านได้ลงมาจากฟากฟ้า ในรูปร่างของผู้ชายสองคน และมลาอีกะห์ทั้งสองก็ได้จับท่านนบี และก็ผ่าหัวใจของท่านนบี และท่านทั้งสองก็นำความชั่วร้ายของชัยฏอนที่อยู่ในใจของมนุษย์ทำความสะอาด จนพร้อมที่จะรับศาสน์ที่อัลเลาะห์มอบหมายให้ และพี่น้องจากแม่นมเดียวกันเห็นดังกล่าว พวกเขาก็รีบไปหาฮาลีมะห์ และบอกกับนางถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และนางก็ได้มาด้วยความเร่งรีบ และนางก็พบว่า ท่านนบี หน้าซีด นางจึงกอดท่านนบีไว้ และก็พาท่านนบีกลับไปที่บ้าน และนางกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอีก นางจึงพาท่านนบีกลับไปหาแม่ของท่าน
การเสียชีวิตของท่านหญิงอามีนะห์
            ท่านหญิงอามีนะห์ได้นำท่านนบีมูฮัมหมัดมาเลี้ยง อายุของท่าน 6 ขวบ เพื่อที่จะเยี่ยมกุโบรของสามีของนาง (ท่านอับดุลเลาะห์) ซึ่งเป็นพ่อของท่านนบี และเพื่อที่จะให้นบีรู้จัก บรรดาน้าๆของท่านนบี และท่านก็ยังคงอยู่กับแม่ของท่าน 1 เดือนเต็ม ระหว่างการเดินทางกลับ ท่านหญิงอามีนะห์ป่วยระหว่างการเดินทาง และตาย ณ ที่แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า อับวาอฺ และท่านรอซูล ร้องไห้เสียใจอย่างรุนแรง และอุมมุอัยมัน คนรับใช้ของท่านรอซูล ได้พาท่านนบีกลับไปหาปู่ของท่านที่มักกะห์
ท่านรอซูล ขณะที่อยู่กับปู่และลุงของท่าน
           หลังจากที่ท่านหญิงอามีนะห์ แม่นมของท่านรอซูล เสียชีวิต ท่านนบีมูฮัมหมัดใช้ชีวิตอยู่กับปู่ของท่าน ท่านจะอยู่พร้อมกับปู่ของท่านทุกๆที่ ที่ปู่ของท่านจะนั่ง ก็จะมีท่านนบีอยู่ด้วย และท่านนบีก็จะนั่งพร้อมกับผู้อาวุโสของชาวมักกะห์ และด้วยความต้องการของอัลเลาะห์ที่จะให้อับดุลมุฏฏอลิบเสียชีวิต และอายุของท่านนบี 8 ขวบ และท่านนบีก็ใช้ชีวิตหลังจากดังกล่าวอยู่กับลุงของท่าน อบีตอลิบ ซึ่งลุงของท่านรักท่านนบีมากๆ และในวันหนึ่ง อบูตอลิบได้พาท่านนบีไปในการเดินทางไปประเทศชาม และอบูตอลิบก็ได้รู้สิ่งหนึ่งที่น่าแปลกใจ
นักบวชบุฮัยรอ
          ระหว่างการเดินทาง กองคาราวานได้ผ่านเมืองหนึ่ง และในระหว่างการเดินทางของพวก ก็ได้ผ่านกระท่อมหลังหลังหนึ่ง ที่มีนักบุญอาศัยอยู่ ชื่อว่า บุฮัยรอ และเมื่อบุฮัยรอได้เห็นกองคาราวาน และเขาก็มองเห็นใบหน้าของท่านรอซูล และอายุของท่าน 12 ปี
บุฮัยรอก็พูดกับลุงของท่านรอซูลว่า : เด็กคนนี้คือใคร
อบูตอลิบกล่าวว่า : แท้จริงเขาคือลูกชายของฉัน
บุฮัยรอกล่าวว่า : เขาไม่ใช่ลูกของท่าน
อบูตอลิบกล่าวว่า : เขาคือลูกของน้องชายของฉัน แต่ว่าพ่อของเขาเสียชีวิตไปแล้ว
บุฮัยรอกล่าวว่า : จงพาลูกของน้องชายของท่านกลับไป และจงระวังจากพวกชาวยิว แท้จริงหลานของท่านจะเป็นนบีในเวลานี้ดังนั้นอบูตอลิบก็รีบกลับไปยังมักกะห์


พ่อค้าที่ซื่อสัตย์
           ขณะที่ท่านนบีอายุ 20 ปี ท่านทำการค้าขาย โด่งดังในเรื่องความสัจจริง และมีอมานะห์ ท่านหญิงคอดียะห์ได้ยินเรื่องดังกล่าว ดังนั้นนางจึงได้เสนอตัวต่อท่านนบีที่จะให้ท่านนบีเข้ามาในการค้าขายของนาง ท่านรอซูลตกลง และก็ออกไปกับคนรับใช้ที่สนิทของท่านหญิง ที่ชื่อมัยซาเราะห์ที่ทำงานกับท่านหญิงคอดียะห์ เมื่อท่านรอซูล กลับไปที่มักกะห์ ท่านได้กำไรจากการค้าขายมากมาย และในระหว่างทางกลับ ได้มีก้อนเมฆที่อยู่บนท้องฟ้า ได้ให้ร่มเงาแก่ท่านนบีมูฮัมหมัด ปกป้องท่านจากความร้อนของดวงอาทิตย์ มัยซาเราะห์จึงได้กลับไปหา และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับท่านหญิงคอดียะห์ฟัง
การแต่งงานของท่านนบีมูฮำหมัด
           ท่านนบีได้แต่งงานกับท่านหญิง คอดิยะฮฺ บินติ คุวัยลิด และท่านนบีมีอายุ 25 ปี และนางมีอายู 40 ปี และมีบุตรกับนาง พวกเขาคือ ซัยหนับ , รุกอยยะฮฺ , อุมมุกัลโซม , ฟาตีมะฮฺ อับดุลลอฮฺ และกอเซ็ม ผู้คนทั้งหลายก็เรียกท่านร่อซูลว่า พ่อของกอเซ็มสืบไปยังลูกชายของท่านนั้นเอง
ความยุติธรรมของท่านร่อซูล
            พวกชาวกุเรชได้รวมตัวกัน เพื่อกลับมาบูรณะกะอฺบะฮฺใหม่ และในระหว่างที่บูรณะกัน ชาวกุเรชได้ขัดแย้งกันในเรื่องที่ใครจะเป็นผู้ที่วางหินดำ เพราะผู้ที่วางหินดำในกะอฺบะฮฺเป็นผู้ที่มีเกียรติ และการขัดแย้งเกือบจะกลายเป็นสงคราม
พวกเขาจึงกล่าวว่า : เราจะให้ผู้ที่เข้ามาหาพวกเราเป็นคนแรกตัดสิน
และท่านร่อซูลก็เข้ามา และพวกเขาก็เสนอเรื่องดังกล่าวแก่ท่านนบี
ท่านนบีกล่าวกับพวกเขาว่า : จงวางหินไว้บนผ้า และหัวหน้าเผ่าทุกๆคนจับปลายผ้า จนกระทั่งวางก้อนหินในกะอฺบะฮฺและพวกเขาก็ทำ หลังจากนั้นท่านร่อซูล  ก็วางหินดำไว้ในที่ของมัน ด้วยตัวของท่านเองในกะอฺบะฮฺ และดังกล่าวเป็นการเสร็จสิ้นการขัดแย้งและความชั่วร้าย

การลงมาของวะฮีย์
             หลังจากที่ท่านนบีอายุ 40 ปี ทำอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺในถ้ำฮิรอฮฺ และท่านก็พิจารณาไตร่ตรองในการสร้างของอัลลอฮฺ และเมื่อญิบรีล อะลัยฮิสลาม ได้ลงมายังท่านร่อซูล ท่านนบีก็กลัว และ
ญิบรีลก็พูดกับท่านนบีว่า : จงอ่าน
ท่านนบีตอบว่า : ฉันอ่านไม่เป็น
ญิบรีลได้พูดกับท่านนบีว่า : จงอ่าน ด้วยกับพระนามของพระเจ้าของเจ้าผู้ทรงสร้างเจ้า 
และญิบรีลก็อ่านซูเราะฮฺ อัล-อะลักให้ท่านนบีฟัง และเป็นซูเราะฮฺแรกที่ลงมาจากกุรอาน และท่านร่อซูลก็กลับไปหาภรรยาของท่านด้วยความหวาดกลัว และ
พูดกับนางว่า : ห่มผ้าให้ฉันที
หลังจากนั้นท่านก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้หญิงคอดิยะห์ฟัง และนางก็นำเรื่องไปเล่าให้ลูกของลุงของนางฟังที่ชื่อ วะรอกะฮฺ อิบนิ เนาฟัล ที่เป็นผู้รู้ในอิลญีล และเขาก็กล่าวกับนางว่า จงไปบอกข่าวดี แท้จริงเขาคือนบีในสมัยนี้

การเชิญชวนต่ออิสลาม

            ท่านร่อซูลเริ่มการเชญชวนญาติใกล้ชิดของท่านและสหายของท่านไปยังอิสลาม ดังนั้นท่านหญิงคอดิยะฮฺก็ศรัทธา หลังจากนั้นก็ท่านอบูบักร และท่านอาลี บินอบีตอลิบ และท่านนบีก็รวบรวมศอฮาบะฮฺของท่านอย่างลับๆ ในบ้านของดารุลอัรกอมลูกของอบีอัรกอม เพื่อที่จะสอนเขาในเรื่องราวของศาสนา หลังจากนั้นพวกกุฟฟารก็ทำร้ายบรรดาผู้ที่ศรัทธา
ปีแห่งความเสียใจ
           ที่ถูกเรียกว่าปีของความเสียใจเพราะท่านนบีเสียใจอย่างมากมายต่อการเสียชีวิตของท่านหญิงคอดิยะฮฺและท่านอบูตอลิบซึ่งเป็นลุงของท่าน ท่านร่อซูล ก็ได้ไปยังเมืองฎออีฟหลังจากดังกล่าว เพื่อเชิญชวมชาวเมืองสู่อิสลาม แต่ว่าพวกเขาได้ทำร้ายท่านนบีและไม่ตอบรับการเชิญชวนของท่าน
อิสรอฮฺและเมี๊ยะอฺรอจ
           อัลลอฮฺต้องการที่จะลดความเศร้าของท่านนบี โดยให้ท่านนบีเดินทางในตอนกลางคืนจากมักกะฮฺไปยังบัยติลมักดีส และละหมาดในมัสยิด หลังจากนั้นก็ขึ้นไปยังฟากฟ้าที่สูงส่ง และอัลลอฮฺบัญญัติการละหมาดให้แก่ท่านนบี
การอพยพไปยังมะดีนะฮฺ
            ท่านร่อซูลได้อพยพไปยังมะดีนะฮฺ หลังจากที่ศอฮาบะฮฺของท่านได้อพยพไปแล้ว และศาสนาของอัลลอฮฺก็ได้แพร่หลายที่นั่น และท่านร่อซูลก็ได้เข้าทำสงครามกับมุชริกีนหลายสงคราม เพื่อปกป้องศาสนาของอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺก็ได้ช่วยเหลือร่อซูลของพระองค์ และสนับสนุนท่านร่อซูลด้วยกับบรรดามาลาอิกะฮฺทำการต่อสู้พร้อมกับท่าน เพราะแท้จริงอัลลอฮฺได้สั่งใช้ที่จะให้ท่านเผยแพร่อิสลามในโลกนี้ เพราะแท้จริง อัลลอฮฺจะไม่รับศาสนาใดนอกจากท่านร่อซูล

การพิชิตมักกะฮฺ
            ท่านร่อซูล ได้กลับไปยังมักกะฮฺ เพื่อที่จะพิชิตมักกะฮฺในวันที่ 10 เดือนรอมาฎอนในปีที่ 8 ของการอพยพ และจำนวนทหารของท่านร่อซูลมี 10,000 คน และท่านนบีก็ละหมาดพร้อมกับศอฮาบะฮฺของท่าน ในกะอฺบะฮฺและความสัจจริงของอัลลอฮฺ สัญญาของอัลลอฮฺต่อร่อซูล ในการกลับเข้าไปในกะอฺบะฮฺอีกครั้งหนึ่ง และท่านร่อซูล ก็อภัยให้ชาวมักกะฮฺ เพราะแท้จริงท่านเป็นผู้ที่เมตตาและเป็นผู้ที่มีเกียรติ และท่านร่อซูล ก็ทำฮัจญ์อำลาในปัฮิจเราะฮฺที่ 10 และบรรดามุสลิมที่อยู่รอบๆท่าน ก็ร่วมประกอบพิธีฮัจญ์พร้อมกับท่าน
โรคของท่านร่อซูล
            ท่านร่อซูล ป่วยอย่างรุนแรงถึงขั้นตัวร้อนที่สุด
การเสียชีวิตของท่านร่อซูล
        
           ท่านร่อซูล เสียชีวิตในวันที่ 12 เดือนรอบิอุ้ลเอาว้าล จากปีที่ 11 ของการอพยพในเวลาสาย และถูกฝังในห้องใกล้ๆมัสยิดของท่านในมะดีนะฮฺ และหลังจากที่ ขยายมัสยิดนะบะวี กุโบรของท่านก็เข้าไปอยู่ในมัสยิด ข้าแต่อัลลอฮฺขอพระองค์ทรงนำนายของเรานบีมูฮำหมัด และความประเสริฐ และการส่งนบีมา ข้าแต่อัลลอฮฺโปรดทรงให้ที่พำนักที่ได้การสรรเสริญที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้กับนบี และอัลลอฮฺได้สรรเสริญนบี และให้ความสันติสุข พระองค์ให้ความจำเริญแก่นบี และครอบครัวของท่าน และบรรดาศอฮาบะฮฺของท่าน และผู้ที่ติดตามท่านไปยังวันแห่งการตอบแทน

            ข้าแต่อัลอฮฺขอพระองค์ทรงโปรดเถิด


ที่มา :  http://www.islammore.com/